Sma Capital Fund Business ไขข้อข้องใจ “รถกระบะบรรทุกได้กี่ตันถึงจะไม่ผิดกฎหมาย?”

ไขข้อข้องใจ “รถกระบะบรรทุกได้กี่ตันถึงจะไม่ผิดกฎหมาย?”

blue and white chevrolet crew cab pickup truck

ไขข้อข้องใจ สำหรับผู้ที่ใช้รถกระบะในการขนของ ว่ารถกระบะบรรทุกได้กี่ตันถึงจะไม่ผิดกฎหมาย หากมีความต้องการที่จะต่อเติมรถกระบะสำหรับบรรทุกของ สามารถดัดแปลงได้เลยหรือไม่? พร้อมบอกข้อปฏิบัติในการใช้รถกระบะขนของให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อที่คุณจะได้ไม่โดนตำรวจจับ

รถกระบะบรรทุกได้กี่ตันถึงจะไม่ผิดกฎหมาย

ตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ได้ระบุไว้ว่า รถกระบะขนาด 1 ตัน สามารถบรรทุกของได้ไม่เกิน 1,000 กก. หรือ 1 ตัน แต่ถ้าเจ้าของรถมีความประสงค์ที่จะใช้ขนของ หรือบรรทุกสิ่งของหนักเกินกว่า 1 ตัน เจ้าของรถจะต้องติดต่อขอทำเรื่องไปที่สำนักงานขนส่ง เพื่อทำเรื่องขออนุญาตดัดแปลงรถกระบะบรรทุก เพื่อให้สามารถบรรทุกของได้มากขึ้น เช่น การเปลี่ยนเพลารถ การเสริมแหนบ เป็นต้น เนื่องจากการที่รถของคุณจะต้องรับน้ำหนักที่มากกว่า 1 ตัน จะต้องนำรถไปดัดแปลงเพื่อเสริมให้รถรองรับน้ำหนักที่มากขึ้นได้

ข้อปฏิบัติในการใช้รถกระบะขนของให้ถูกต้องตามกฎหมาย

นอกจากคุณจะต้องเป็นห่วงเรื่องรถกระบะบรรทุกได้กี่ตัน ถึงจะถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังมีข้อปฏิบัติอื่น ๆ ในการใช้รถกระบะเพื่อบรรทุกของให้คุณปฏิบัติตามอีกด้วย

  1. ความกว้างของสิ่งของที่บรรทุก จะต้องไม่เกินขนาดของตัวรถออกมา ไม่อย่างนั้นจะถือว่ามีความผิด เพราะหากสิ่งของที่คุณยื่นมาเกินความกว้างของตัวรถ อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นได้
  2. ความยาวของสิ่งของที่บรรทุก จะต้องยาวไม่เกิดด้านหน้าของตัวรถเด็ดขาด ส่วนด้านหลังของรถสามารถยื่นเกินความยาวของตัวรถกระบะได้ แต่สิ่งของจะต้องมีความยาวไม่เกิน 2.50 เมตร เพราะถ้ายาวเกินกว่านี้ จะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ถนนท่านอื่น หรือสิ่งของที่คุณบรรทุกอาจเกิดความเสียหายได้
  3. ความสูงของสิ่งของที่บรรทุก ความสูงของสิ่งของที่บรรทุกแล้วไม่ผิดกฎหมาย จะแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี ได้แก่
  • รถกระบะที่มีความกว้างไม่เกิน 2.30 เมตร สามารถขนของที่มีความสูงจากพื้นได้ไม่เกิน 3 เมตร
  • รถกระบะที่มีความกว้างเกิน 2.30 เมตร สามารถขนของที่มีความสูงจากพื้นได้ไม่เกิน 3.80 เมตร
  1. การติดสัญลักษณ์ในกรณีที่ของมีความยาวเกินตัวรถ การติดสัญลักษณ์จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา เพื่อเป็นสัญญาณให้รถคันอื่นระวังสิ่งของที่ยื่นออกมาจากตัวรถ ด้วยการติดสัญลักษณ์ที่สะดุดตาให้รถคันอื่นสังเกตเห็น โดยทั้ง 2 ช่วงเวลานี้จะใช้สัญลักษณ์ในการติดต่างกัน ดังนี้
  • บรรทุกของตอนกลางวัน : ติดธงสีแดงเรืองแสง รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ขนาดกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 45 เซนติเมตร)
  • บรรทุกของตอนกลางคืน : ติดไฟสัญญาณสีแดงที่มองเห็นชัดเจนในระยะ 150 เมตร นอกจากจะติดในตอนกลางคืนแล้ว ยังสามารถใช้ติดในกรณีที่วิสัยทัศน์ในการมองเห็นไม่ดี อย่างในวันที่มีพายุฝนได้
  1. ความสูงของคอกที่ต่อเติม การต่อเติมคอกก็ต้องคำนึงถึงความสูงของคอกอีกด้วย ซึ่งความสูงของคอกที่ต่อเติมจะเท่ากับความสูงของสิ่งของที่บรรทุกแล้วไม่ผิดกฎหมาย สามารถยึดหลักเกณฑ์เดียวกันได้เลย แต่การต่อเติมคอกจะเพิ่มเติมในส่วนการขออนุญาตต่อเติมรถ โดยคุณจะต้องไปทำเรื่องขออนุญาตต่อเติมรถกระบะที่กรมการขนส่งฯ ไม่อย่างนั้นจะมีความผิด ถือว่าเป็นการแต่งเติมโดยพลการมีความผิดทางกฎหมาย
  2. นำรถบรรทุกไปจดทะเบียนให้ถูกต้อง ก่อนนำรถกระบะไปใช้เพื่อการบรรทุกของ หรือเพื่อการขนส่ง คุณจะต้องนำรถกระบะไปจดทะเบียนเป็นรถกระบะบรรทุกเพื่อการขนส่ง ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนสีขาวสะท้อนแสง และมีตัวหนังสือสีเขียว แต่ถ้าหากคุณใช้ทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งทั่วไป ที่เป็นป้ายสีขาวสะท้อนแสง ตัวหนังสือสีดำ ถือว่าผิดกฎหมาย เป็นการใช้งานรถยนต์ผิดประเภท

จะเห็นได้ว่า นอกจากจะต้องรู้ว่ารถกระบะบรรทุกได้กี่ตันแล้ว ก็ยังมีข้อปฏิบัติอื่น ๆ อีกด้วย สำหรับผู้ที่ใช้รถกระบะในการบรรทุกของ อย่าลืมที่จะทำตามข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่อยากโดนคุณตำรวจเรียกตรวจให้เสียเวลา แล้วอย่าลืมเลือกประกันที่ดีให้แก่รถยนต์ของคุณ เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ จาก Rabbit Care ที่ครอบคลุมความต้องการอย่างคุ้มค่า เข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://rabbitcare.com/car-insurance/type2-plus